การประยุกต์ใช้ระบบ “Bag Filter” ในการดักจับฝุ่นจากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในภาคการผลิตที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม กระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมนี้มักก่อให้เกิดฝุ่นละอองที่มีลักษณะเฉพาะและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพนักงานและสิ่งแวดล้อม ระบบ “Bag Filter” จึงเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในการดักจับฝุ่นในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมีแนวทางดังนี้ 

การวิเคราะห์ลักษณะฝุ่นในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และการเลือก “Bag Filter” 

การเลือกระบบ “Bag Filter” ที่เหมาะสมเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ลักษณะของฝุ่นที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต 

  1. ประเภทของฝุ่นในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
  • ฝุ่นโลหะ: เกิดจากการตัด เจาะ และขัดชิ้นส่วนโลหะ เช่น ทองแดง อลูมิเนียม 
  • ฝุ่นพลาสติก: เกิดจากการขึ้นรูปและตัดแต่งชิ้นส่วนพลาสติก 
  • ฝุ่นเซรามิก: เกิดจากการผลิตชิ้นส่วนเซรามิกในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ 
  • ฝุ่นสารกึ่งตัวนำ: เช่น ซิลิคอน แกลเลียมอาร์เซไนด์ จากกระบวนการผลิตชิป 
  • ฝุ่นสารเคมี: จากกระบวนการชุบและล้างแผ่นวงจร 
  1. คุณสมบัติของฝุ่นที่ต้องพิจารณา
  • ขนาดอนุภาค: ฝุ่นในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มักมีขนาดเล็กมาก (0.1-10 ไมครอน) 
  • ความหนาแน่น: ฝุ่นโลหะมักมีความหนาแน่นสูง ในขณะที่ฝุ่นพลาสติกมีความหนาแน่นต่ำ 
  • ความชื้น: บางกระบวนการอาจก่อให้เกิดฝุ่นที่มีความชื้นสูง 
  • ความเป็นกรด-ด่าง: ฝุ่นจากกระบวนการชุบอาจมีฤทธิ์กัดกร่อน 
  • ความไวไฟ: ฝุ่นบางประเภทอาจมีความไวไฟสูง เช่น ฝุ่นอลูมิเนียม 
  1. การเลือก “Bag Filter” ที่เหมาะสม
  • วัสดุของถุงกรอง: เลือกให้เหมาะกับประเภทของฝุ่น เช่น 
  • Polyester สำหรับฝุ่นทั่วไปที่ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน 
  • PTFE (Teflon) สำหรับฝุ่นที่มีฤทธิ์กัดกร่อนหรือทนอุณหภูมิสูง 
  • ntistatic materials สำหรับฝุ่นที่มีความไวไฟสูง 
  • ขนาดรูพรุนของถุงกรอง: เลือกให้เหมาะกับขนาดอนุภาคของฝุ่น โดยทั่วไปจะใช้ถุงกรองที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับดักจับฝุ่นขนาดเล็กมาก (HEPA หรือ ULPA filters) 
  • รูปแบบของ Bag Filter: เช่น Pulse-jet, Reverse air, หรือ Shaker type ขึ้นอยู่กับปริมาณและลักษณะของฝุ่น 

การออกแบบและติดตั้งระบบ “Bag Filter” สำหรับกระบวนการผลิตเฉพาะทาง 

การออกแบบระบบ “Bag Filter” สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้องคำนึงถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละกระบวนการผลิต ได้แก่ 

  1. การประยุกต์ใช้ในกระบวนการบัดกรี (Soldering) และการพิมพ์แผงวงจร
  • ติดตั้งระบบดูดอากาศเฉพาะจุดที่เกิดควันบัดกรี 
  • ใช้ถุงกรองที่ทนความร้อนและสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กจากควันบัดกรี 
  • ออกแบบระบบให้สามารถกำจัดไอระเหยของสารฟลักซ์ได้ด้วย 
  1. การดักจับฝุ่นจากกระบวนการตัดและเจาะแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB)
  • ใช้ระบบ “Bag Filter” แบบ Pulse-jet ที่สามารถทำความสะอาดถุงกรองได้อย่างต่อเนื่อง 
  • ติดตั้งระบบดูดฝุ่นที่มีความเร็วลมสูงเพื่อดักจับเศษฝุ่นที่เกิดจากการตัดและเจาะ 
  • ออกแบบระบบให้สามารถแยกฝุ่นโลหะและฝุ่นพลาสติกเพื่อการรีไซเคิล 
  1. การบำบัดอากาศในกระบวนการเคลือบและกัดกร่อนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
  • ใช้วัสดุถุงกรองที่ทนต่อสารเคมีและไอกรด 
  • ติดตั้งระบบ Pre-filter เพื่อดักจับละอองสารเคมีก่อนเข้าสู่ “Bag Filter” หลัก 
  • ออกแบบระบบระบายความชื้นเพื่อป้องกันการอุดตันของถุงกรอง 
  1. การออกแบบระบบ Bag Filter ให้สอดคล้องกับมาตรฐานห้องสะอาด
  • ใช้ถุงกรองประสิทธิภาพสูง (HEPA หรือ ULPA) เพื่อให้ได้คุณภาพอากาศตามมาตรฐานห้องสะอาด 
  • ออกแบบระบบให้สามารถควบคุมความดันและอัตราการไหลของอากาศได้อย่างแม่นยำ 
  • ติดตั้งระบบตรวจวัดอนุภาคแบบต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบ

การควบคุมประสิทธิภาพและการบำรุงรักษาระบบ “Bag Filter” 

การรักษาประสิทธิภาพของระบบ “Bag Filter” ในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความสะอาดสูง ดังนี้ 

  1. การติดตั้งระบบตรวจวัดและควบคุมการทำงานแบบอัตโนมัติ
  • ติดตั้งเซนเซอร์วัดความดันตกคร่อมถุงกรองเพื่อตรวจสอบการอุดตัน 
  • ใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับการทำความสะอาดถุงกรอง (เช่น ระบบ Pulse-jet) 
  • ติดตั้งระบบตรวจวัดปริมาณฝุ่นในอากาศที่ผ่านการกรองแบบต่อเนื่อง 
  1. แผนการทำความสะอาดและเปลี่ยนถุงกรอง
  • กำหนดตารางการทำความสะอาดถุงกรองตามข้อมูลการใช้งานจริง 
  • วางแผนการเปลี่ยนถุงกรองล่วงหน้าเพื่อป้องกันการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต 
  • จัดทำขั้นตอนการทำความสะอาดและเปลี่ยนถุงกรองที่ป้องกันการปนเปื้อน 
  1. การจัดการกับฝุ่นที่ถูกดักจับ
  • แยกประเภทของฝุ่นที่ดักจับได้เพื่อการกำจัดหรือรีไซเคิลอย่างเหมาะสม 
  • ใช้ระบบจัดเก็บฝุ่นแบบปิดเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจาย 
  • ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมในการกำจัดฝุ่นที่อาจมีสารอันตราย 

จะเห็นได้ว่า การประยุกต์ใช้ระบบ “Bag Filter” ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องสุขภาพของพนักงานและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพการผลิตด้วย การเลือกระบบที่เหมาะสม การออกแบบที่ตรงตามความต้องการเฉพาะ และการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สามารถควบคุมมลพิษทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน