บริการหลังการขาย

เรามีบริการหลังการขายในการดูแลระบบบำบัดอากาศของลูกค้าเพื่อประสิทธิภาพที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และ ลดค่าใช้จ่ายจากการซ่อมบำรุงที่ไม่คาดคิด ดังนี้

  1. บริการล้างระบบ Wet Scrubber และลูกแพ็คกิ้งมีเดีย (Packing media)
  2. บริการเปลี่ยนถ่ายถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon Adsorption)
  3. บริการเปลี่ยนถุงกรอง (Filter bag) ในระบบ Dust collector หรือ Bag filter
  4. บริการตรวจวัดแรงลมในระบบก่อนและหลังการทำ PM
  5. บริการตรวจสอบและทดสอบอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ระบบไฟฟ้า, อุปกรณ์ตัดไฟกรณีฉุกเฉิน, และระบบการระบายอากาศ.
  6. ตรวจสอบระบบควบคุมและเซ็นเซอร์วัด เช่น ระดับ pH, อุณหภูมิ, และการตรวจจับการไหลของของเหลว 
  7. เปลี่ยนปั๊ม, Spray nozzle, และชิ้นส่วนที่มีโอกาสสึกหรอ 
  8. ตรวจสอบความหนาท่อเพื่อดูเรื่องการกัดกร่อน
  9. บริการงานตรวจเช็คการทำงานของพัดลมไฟเบอร์กลาส (FRP Blower) และรับบาลานซ์ในกรณีที่พัดลมไฟเบอร์กลาสมีการสั่นที่ค่อนข้างแรง
การทำ Preventive Maintenance (PM) หรือการบำรุงรักษาเชิงป้องกันสำหรับระบบบำบัดอากาศสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างมาก ต่อไปนี้คือตัวอย่างเชิงตัวเลขที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ PM อย่างสม่ำเสมอ:
1. ลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุง
  • ก่อนทำ PM: โดยไม่มีการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน, อาจมีการเสียหายที่รุนแรงจนต้องหยุดการผลิตเพื่อซ่อมแซม ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อการซ่อมแซมครั้งละประมาณ 50,000-100,000 บาท เนื่องจากต้องแทนที่อุปกรณ์ราคาแพงและต้องหยุดการผลิต.
  • หลังทำ PM: การทำ PM ตามปกติอาจมีค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและการบำรุงรักษาประมาณ 10,000-15,000 ต่อครั้ง แต่สามารถลดความเสี่ยงของการเสียหายรุนแรงที่ต้องหยุดการผลิตและทำให้ระยะเวลาการหยุดทำงานสั้นลง.
2. ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
  • ก่อนทำ PM: ความไม่สม่ำเสมอในการทำงานของ scrubber อาจทำให้ประสิทธิภาพการลดมลพิษลดลง 20% ซึ่งส่งผลให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับการจัดการมลพิษ.
  • หลังทำ PM: การบำรุงรักษาที่สม่ำเสมอช่วยให้ระบบทำงานได้ตามประสิทธิภาพสูงสุด ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเคมีคอลที่ใช้ในการทำความสะอาดลดลง 10-15%.
3. ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
  • ก่อนทำ PM: การไม่มีการบำรุงรักษาอาจทำให้อุปกรณ์มีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี.
  • หลังทำ PM: การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอสามารถเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้อีก 2-3 ปี ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนซื้ออุปกรณ์ใหม่.

การลงทุนในการทำ PM ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการซ่อมบำรุงที่ไม่คาดคิด แต่ยังช่วยให้ระบบดำเนินการได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรวมที่ต่ำลงในระยะยาว.