เรามีบริการหลังการขายในการดูแลระบบบำบัดอากาศของลูกค้าเพื่อประสิทธิภาพที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และ ลดค่าใช้จ่ายจากการซ่อมบำรุงที่ไม่คาดคิด ดังนี้
- บริการล้างระบบ Wet Scrubber และลูกแพ็คกิ้งมีเดีย (Packing media)
- บริการเปลี่ยนถ่ายถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon Adsorption)
- บริการเปลี่ยนถุงกรอง (Filter bag) ในระบบ Dust collector หรือ Bag filter
- บริการตรวจวัดแรงลมในระบบก่อนและหลังการทำ PM
- บริการตรวจสอบและทดสอบอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ระบบไฟฟ้า, อุปกรณ์ตัดไฟกรณีฉุกเฉิน, และระบบการระบายอากาศ.
- ตรวจสอบระบบควบคุมและเซ็นเซอร์วัด เช่น ระดับ pH, อุณหภูมิ, และการตรวจจับการไหลของของเหลว
- เปลี่ยนปั๊ม, Spray nozzle, และชิ้นส่วนที่มีโอกาสสึกหรอ
- ตรวจสอบความหนาท่อเพื่อดูเรื่องการกัดกร่อน
- บริการงานตรวจเช็คการทำงานของพัดลมไฟเบอร์กลาส (FRP Blower) และรับบาลานซ์ในกรณีที่พัดลมไฟเบอร์กลาสมีการสั่นที่ค่อนข้างแรง
การทำ Preventive Maintenance (PM) หรือการบำรุงรักษาเชิงป้องกันสำหรับระบบบำบัดอากาศสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างมาก ต่อไปนี้คือตัวอย่างเชิงตัวเลขที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ PM อย่างสม่ำเสมอ:
1. ลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุง
- ก่อนทำ PM: โดยไม่มีการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน, อาจมีการเสียหายที่รุนแรงจนต้องหยุดการผลิตเพื่อซ่อมแซม ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อการซ่อมแซมครั้งละประมาณ 50,000-100,000 บาท เนื่องจากต้องแทนที่อุปกรณ์ราคาแพงและต้องหยุดการผลิต.
- หลังทำ PM: การทำ PM ตามปกติอาจมีค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและการบำรุงรักษาประมาณ 10,000-15,000 ต่อครั้ง แต่สามารถลดความเสี่ยงของการเสียหายรุนแรงที่ต้องหยุดการผลิตและทำให้ระยะเวลาการหยุดทำงานสั้นลง.
2. ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
- ก่อนทำ PM: ความไม่สม่ำเสมอในการทำงานของ scrubber อาจทำให้ประสิทธิภาพการลดมลพิษลดลง 20% ซึ่งส่งผลให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับการจัดการมลพิษ.
- หลังทำ PM: การบำรุงรักษาที่สม่ำเสมอช่วยให้ระบบทำงานได้ตามประสิทธิภาพสูงสุด ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเคมีคอลที่ใช้ในการทำความสะอาดลดลง 10-15%.
3. ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
- ก่อนทำ PM: การไม่มีการบำรุงรักษาอาจทำให้อุปกรณ์มีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี.
- หลังทำ PM: การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอสามารถเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้อีก 2-3 ปี ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนซื้ออุปกรณ์ใหม่.
การลงทุนในการทำ PM ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการซ่อมบำรุงที่ไม่คาดคิด แต่ยังช่วยให้ระบบดำเนินการได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรวมที่ต่ำลงในระยะยาว.